โบท๊อกซ์

BOTOX คืออะไร

BOTOX คืออะไร ?

BOTOX มีชื่อทางการแพทย์ เรียกว่า “โบทูลินัม ท็อกซิน เอ” (Botulinum toxin A) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่สร้างจากแบคทีเรียชื่อ Clostridium botulinum ออกฤทธิ์โดยไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท (Neurotoxin)ที่มาควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับ BOTOX หดตัวไม่ได้และอยู่ในสภาพคลายตัวในที่สุด “การฉีดโบท็อก” จึงเป็นวิธีที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น และปรับรูปหน้า ที่ได้ผลชัดเจน ใช้เวลาไม่นาน ที่นิยมอย่างมาก

BOTOX ใช้ฉีดส่วนไหน ?

BOTOX สามารถใช้ฉีดได้หลายตำแหน่ง แต่ส่วนใหญ่ที่นิยม คือใช้ลดริ้วรอย ลดกรามและปรับหน้าเรียว

ฉีด BOTOX อันตรายหรือไม่ ?

โบท็อกแท้ที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรอง สามารถสลายเองได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง มีความปลอดภัยสูง แม้ว่า BOTOX จะเป็นสารที่ฉีดเข้าร่างกาย แต่ก็สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง และไม่อันตรายต่อร่างกาย

ทั้งนี้ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีด BOTOX ได้แก่ บวม แดง ช้ำ เขียว ตรงบริเวณที่ฉีด

BOTOX แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร

BOTOX เกาหลี (Nabota / Aestox)

BOTOXเกาหลีจะเน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว แต่มีราคาที่ถูกกว่าสัญชาติอื่น

Nabota

โบท็อกเกาหลียี่ห้อ Nabota เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก U.S.FDA (อย.อเมริกา 2018) ผลิตโดยบริษัท DAEWOONG จุดเด่นของ Nabota คือตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ออกฤทธิ์ไว เห็นผลลัพธ์หลังฉีดค่อนข้างเร็ว ไม่แข็ง เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง

เหมาะกับคนที่ต้องการผลแบบเร่งด่วน นิยมนำมาใช้ในการลดริ้วรอย เช่น รอยย่นหน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว และสามารถนำมาใช้เพื่อลดกราม ยกคิ้ว กระชับหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กยิ่งขึ้น

Aestox

โบท็อก ยี่ห้อ Aestox เป็นโบท็อกเกาหลีที่ผ่าน อย.ไทย ได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัย ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง 99.5% จึงช่วยลดโอกาสในการดื้อได้ดี เห็นผลไว มีความอ่อนโยน หน้าไม่แข็ง อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง

นิยมนำมาฉีดเพื่อลดริ้วรอยหางตา รอยย่นหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ปรับรูปหน้าให้หน้าเรียว นอกจากนี้ยังนิยมนำมาฉีดโบท็อกลดเหงื่ออีกด้วย

BOTOX เยอรมัน (Xeomin)

โบท็อก Xeomin (ซีโอมิน) มีโมเลกุลเล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ เป็นยี่ห้อของเยอรมันที่ใช้ในคลินิกเสริมความงามชั้นนำ สำหรับการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า มีความปลอดภัย โดยผ่านการรับรองจาก U.S.FDA (อย.อเมริกา 2011) นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย จำกัด (Merz Aesthetics) และผ่านอย.ของไทยในปี 2016

Xeomin มีความบริสุทธ์สูงมาก มีงานวิจัยที่แสดงว่า Xeomin สามารถให้ออกฤทธิ์ได้ในเคสที่ดื้อโบท็อก (โดยที่เคสนั้น ๆ ต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี) จึงเหมาะกับเคสที่ดื้อโบท็อกซ์ นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอยทั่วหน้า เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว รอยตีนกา ริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตา ปรับรูปหน้าเรียว ลดโหนกแก้ม ลดกราม

ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 8 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง

BOTOX ของแท้ดูอย่างไร

BOTOX ของแท้จะดูได้จาก

มีวันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุชัดเจน ที่ก้นกล่อง และข้างขวด เลขทั้งสองที่ต้องตรงกัน
มีข้อมูลนำเข้าว่านำเข้ามาโดยบริษัทใด
ต้องมีฝาพลาสติกใสปิดทับอยู่ด้านบน

นอกจากหลัก ๆ ตามข้างต้นแล้ว แต่ละยี่ห้อยังมีการสังเกตที่แตกต่างกัน โดยที่ยี่ห้อหลักที่ได้คุณภาพก็จะมีข้อสังเกตแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนที่จะรู้ข้อแตกต่างว่าเป็นของจริงหรือของปลอม คุณควรต้องเลือกคลินิกเสริมความงามที่เชื่อถือได้และบุคลากรมีความเชี่ยวชาญหน้าเชื่อถือได้เท่านั้น

การดูแลตัวเองหลังฉีด BOTOX

หลังฉีดโบท็อกงดนอนราบ เป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น และเพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าเกิดเลือดสูบฉีดเยอะ 48 ชม. เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ออกกำลังกายอย่างหนัก, อบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น
หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
หลังฉีดโบท็อกได้ประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ โดยจะมีรอยแดงจากเข็มและรอยนูนจากการฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายในเวลา 1 – 2 ชั่วโมงหลังฉีด
งดการทำทรีทเม้นท์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์ 2 สัปดาห์ แต่สามารถทาครีมไม่ตามปกติ